สมาร์ทวอทช์เป็นอุปกรณ์สวมใส่ที่มีฟังก์ชันและคุณสมบัติต่างๆ มากมายนอกเหนือจากการบอกเวลาพวกเขาสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ หรืออินเทอร์เน็ต และให้การแจ้งเตือน การติดตามการออกกำลังกาย การตรวจสอบสุขภาพ การนำทาง ความบันเทิง และอื่นๆ อีกมากมายสมาร์ทวอทช์กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่ผู้บริโภคที่ต้องการทำให้ชีวิตง่ายขึ้นและเพิ่มความเป็นอยู่ที่ดีจากข้อมูลของ Fortune Business Insights ขนาดตลาดสมาร์ทวอทช์ทั่วโลกมีมูลค่า 18.62 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2563 และคาดว่าจะเติบโตเป็น 58.21 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2571 โดยมี CAGR อยู่ที่ 14.9% ในช่วงปี 2564-2571
องค์ประกอบที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของสมาร์ทวอทช์คือ CPU (หน่วยประมวลผลกลาง) ซึ่งเป็นสมองของอุปกรณ์CPU จะกำหนดประสิทธิภาพ ความเร็ว การใช้พลังงาน และฟังก์ชันการทำงานของสมาร์ทวอทช์CPU สำหรับนาฬิกาอัจฉริยะมีหลายประเภท แต่ละประเภทมีข้อดีและข้อเสียของตัวเองต่อไปนี้คือประเภททั่วไปของ CPU ของสมาร์ทวอทช์และคุณลักษณะต่างๆ:
- ซีรีส์ **Arm Cortex-M**: เป็นไมโครคอนโทรลเลอร์ประสิทธิภาพสูงที่ใช้พลังงานต่ำซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลายในนาฬิกาอัจฉริยะและอุปกรณ์ฝังตัวอื่นๆรองรับระบบปฏิบัติการที่หลากหลาย เช่น Watch OS, Wear OS, Tizen, RTOS และอื่นๆ อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ความปลอดภัย เช่น Arm TrustZone และ CryptoCellตัวอย่างของนาฬิกาอัจฉริยะที่ใช้ซีพียู Arm Cortex-M ได้แก่ Apple Watch Series 6 (Cortex-M33), Samsung Galaxy Watch 4 (Cortex-M4) และ Fitbit Versa 3 (Cortex-M4)
- **Cadence Tensilica Fusion F1** DSP: นี่คือโปรเซสเซอร์สัญญาณดิจิทัลที่ปรับให้เหมาะสมสำหรับการประมวลผลเสียงและเสียงที่ใช้พลังงานต่ำสามารถจัดการการรู้จำเสียง การตัดเสียงรบกวน ระบบสั่งงานด้วยเสียง และฟีเจอร์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเสียงได้นอกจากนี้ยังสามารถรองรับการรวมเซ็นเซอร์ เสียง Bluetooth และการเชื่อมต่อไร้สายมักจะจับคู่กับแกน Arm Cortex-M เพื่อสร้าง CPU แบบไฮบริดสำหรับนาฬิกาอัจฉริยะตัวอย่างของสมาร์ทวอทช์ที่ใช้ DSP นี้คือ MCU แบบครอสโอเวอร์ NXP i.MX RT500
- ซีรีส์ **Qualcomm Snapdragon Wear**: เป็นโปรเซสเซอร์แอปพลิเคชันที่ออกแบบมาสำหรับสมาร์ทวอทช์ Wear OSนำเสนอประสิทธิภาพสูง ใช้พลังงานต่ำ การเชื่อมต่อในตัว และประสบการณ์ผู้ใช้ที่หลากหลายนอกจากนี้ยังรองรับฟีเจอร์ AI เช่น ระบบสั่งงานด้วยเสียง การจดจำท่าทาง และการปรับเปลี่ยนในแบบของคุณตัวอย่างของนาฬิกาอัจฉริยะที่ใช้ CPU Qualcomm Snapdragon Wear ได้แก่ Fossil Gen 6 (Snapdragon Wear 4100+), Mobvoi TicWatch Pro 3 (Snapdragon Wear 4100) และ Suunto 7 (Snapdragon Wear 3100)
สมาร์ทวอทช์กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วด้วยเทคโนโลยีและเทรนด์ใหม่ๆแนวโน้มในปัจจุบันและอนาคตในตลาดสมาร์ทวอทช์ ได้แก่:
- **การตรวจติดตามสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี**: สมาร์ทวอทช์มีความสามารถในการติดตามพารามิเตอร์ด้านสุขภาพต่างๆ มากขึ้น เช่น อัตราการเต้นของหัวใจ ความดันโลหิต ระดับออกซิเจนในเลือด ECG คุณภาพการนอนหลับ ระดับความเครียด ฯลฯ นอกจากนี้ยังสามารถแจ้งเตือนและเตือนความจำได้อีกด้วย คำแนะนำ และข้อเสนอแนะเพื่อช่วยให้ผู้ใช้ปรับปรุงสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของตนนาฬิกาอัจฉริยะบางรุ่นยังสามารถตรวจจับการล้มหรืออุบัติเหตุ และส่งข้อความ SOS ไปยังผู้ติดต่อฉุกเฉินหรือหน่วยกู้ภัยฉุกเฉินได้
- **การปรับเปลี่ยนในแบบของคุณและการปรับแต่ง**: สมาร์ทวอทช์มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น และปรับแต่งให้เหมาะกับความชอบและความต้องการของผู้ใช้ที่แตกต่างกันผู้ใช้สามารถเลือกสไตล์ สี วัสดุ ขนาด รูปร่าง สาย หน้าปัด ฯลฯ นอกจากนี้ยังสามารถปรับแต่งการตั้งค่าสมาร์ทวอทช์ ฟังก์ชัน แอพ วิดเจ็ต ฯลฯ ได้อีกด้วย สมาร์ทวอทช์บางรุ่นยังสามารถเรียนรู้จากพฤติกรรมและนิสัยของผู้ใช้และ ให้คำแนะนำและคำแนะนำที่เหมาะกับคุณ
- **กลุ่มเด็ก**: สมาร์ทวอทช์กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่เด็ก ๆ ที่ต้องการสนุกสนานและติดต่อกับพ่อแม่หรือเพื่อนฝูงนาฬิกาอัจฉริยะสำหรับเด็กนำเสนอคุณสมบัติต่างๆ เช่น เกม เพลง กล้องถ่ายรูป วิดีโอคอล การติดตาม GPS การควบคุมโดยผู้ปกครอง ฯลฯ นอกจากนี้ยังช่วยให้เด็กๆ มีความกระตือรือร้นและมีสุขภาพดีมากขึ้นด้วยการกำหนดเป้าหมายการออกกำลังกาย รางวัล ความท้าทาย ฯลฯ
สมาร์ทวอทช์ไม่ได้เป็นเพียงอุปกรณ์ แต่ยังเป็นเพื่อนคู่ใจในไลฟ์สไตล์ที่สามารถเพิ่มความสะดวกสบาย ผลผลิต และความเป็นอยู่ที่ดีของผู้ใช้ได้นอกจากนี้ยังสามารถสะท้อนถึงบุคลิกภาพ รสนิยม และสไตล์ของผู้ใช้ได้อีกด้วยด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและนวัตกรรม สมาร์ทวอทช์จะยังคงนำเสนอคุณสมบัติ ฟังก์ชัน และคุณประโยชน์เพิ่มเติมแก่ผู้ใช้ต่อไปในอนาคตดังนั้นสมาร์ทวอทช์จึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับใครก็ตามที่ต้องการเพลิดเพลินกับเทรนด์และเทคโนโลยีล่าสุดในตลาดอุปกรณ์สวมใส่
เวลาโพสต์: Jul-07-2023